การรับประทานอาหารกล่อง อาหารสำเร็จรูป กลายเป็นวิถีชีวิตของคนในยุคปัจจุบันเพราะสะดวก รวดเร็ว ประหยัด หาซื้อได้ง่าย พ่อค้า แม่ค้าอาหารตามสั่ง อาหารสำเร็จรูป นิยมใช้กล่องโฟมเป็นภาชนะบรรจุอาหาร เนื่องจากมีน้ำหนักเบา เป็นฉนวนทนความร้อน ใช้ง่ายและราคาถูก โฟมผลิตมาจากวัสดุพอลิเมอร์ ชนิดพอสิสไตรีน(polystyrene) เมื่อนำมาใช้บรรจุอาหารร้อนและอาหารทอด น้ำมันจากอาหารจะเกิดปฏิกิริยากับโฟม ทำให้เกิดสารอันตรายปะปนออกมากับอาหาร สารเหล่านี้ได้แก่สารสไตรีน(styrene) และสารเบนซิน(benzene) สารสไตรีนที่เกิดขึ้นจะมีผลเสียต่อร่างกายคือ ทำลายระบบฮอร์โมนในร่างกาย มีผลต่อระบบประสาท เม็ดเลือดแดง ตับและไต เมื่อถูกผิวหนังหรือเข้าตาหรือสูดดมเข้าไป ทำให้เยื่อเมือกเกิดการระคายเคือง มีอาหารไอและหายใจลำบาก ปวดศรีษะ ง่วงซึม กระทรวงสาธารณสุขได้มีการจัดทำโครงการรณรงค์ ลด ละ เลิกการใช้กล่องโฟมบรรจุอาหารเพื่อสุขภาพที่ดีของคนไทย แต่ก็ยังไม่ได้ผลมากนัก ร้านอาหารตามสั่งทั่วไปก็ยังคงใช้กล่องโฟมในการบรรจุอาหาร ดังนั้นผู้บริโภคต้องตระหนักและดูแลสุขภาพของตนเอง โดยหยุดบริโภคอาหารจากร้านค้าที่ผู้ประกอบการใช้กล่องโฟมบรรจุอาหาร แล้วหันมาบริโภคอาหารที่บรรจุในภาชนะทดแทนโฟมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ซึ่งปัจจุบันได้มีการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ที่ผลิตจากวัสดุธรรมชาติ เช่นกระดาษ ชานอ้อย เยื่อไผ่ มันสำปะหลัง ซึ่งทนต่อความร้อนใช้กับอาหารที่มีไขมัน และอุ่นอาหารในไมโครเวฟได้ ย่อยสลายเร็วภายใน  45 วันก็ย่อยสลายหมดแล้วแตกต่างจากโฟมที่ต้องใช้เวลามากกว่า 450 ปี จึงจะย่อยสลายได้หมด 

           โรงเรียนวัดน้ำโท้ง ได้ดำเนินโครงการกระบวนการเรียนรู้กระดาษสาน้ำโท้ง วิถีชุมชนภูมิปัญญาท้องถิ่น โดยได้ผลิตกระดาษสาและนำไปเป็นผลิตภัณฑ์ชนิดต่างๆ จำหน่ายสู่ชุมชุน และจากการที่โรงเรียนได้ จัดการเรียนการสอนแบบบูรณาการ STEM จึงมีแนวคิดที่จะนำกระดาษสามาทดแทนภาชนะที่ทำมาจากโฟม จึงได้จัดทำโครงการ“ ผลิตภัณฑ์กระดาษสา สู่นวัตกรรมรักษ์โลก ” เพื่อนำกระดาษสามาทำเป็นผลิตภัณฑ์ที่บรรจุอาหารแทนการใช้โฟม ช่วยลดปัญหาอันตรายจากโฟม  นักเรียนนำความรู้และทักษะที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21 สู่งานอาชีพ โรงเรียนเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ของชุมชนและชุมชนส่งเสริม สนับสนุน ต่อยอดกิจกรรมให้คงอยู่อย่างยั่งยืน

 

1. เพื่อให้นักเรียนสามารถ ผลิตถ้วย จาน กล่องจากกระดาษสา
2. เพื่อช่วยลดปัญหาอันตรายจากโฟมในการบรรจุอาหาร
3. เพื่อให้นักเรียนนำความรู้และทักษะที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21 สู่งานอาชีพ
4. โรงรียนเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ของชุมชน
5. ชุมชนส่งเสริม สนับสนุน ต่อยอดกิจกรรมให้คงอยู่อย่างยั่งยืน



1. ครูหรือบุคลากรทางการศึกษา จำนวน 11 คน
2. อื่นๆ จำนวน 109 คน

ระดับชั้น	กิจกรรมการเรียนรู้	รายละเอียดกิจกรรม	สาระการเรียนรู้
อนุบาล	STEM ปฐมวัย แต่งแต้มสีสัน	-นำกระดาษสา ผลิตภัณฑ์ถ้วย จาน กล่องกระดาษสา มาแต่งแต้ม ระบายสี   บูรณาการตามกระบวนการ STEM ปฐมวัย /ตามโครงการบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย	วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์  เทคโนโลยี และวิศวกรรมศาสตร์ ศิลปศึกษา
ประถมศึกษา ปีที่ 1	สร้างสรรค์จินตนาการ	การสร้างสรรค์จินตนาการ วาดรูป สร้างสิ่งประดิษฐ์  ถ้วย จาน กล่องกระดาษสา ในรูปแบบต่างๆ	วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์  เทคโนโลยี และวิศวกรรมศาสตร์ ศิลปศึกษา
ประถมศึกษา ปีที่ 2	สู่งานฝีมือ	-การนำถ้วย จาน กล่องกระดาษสา มาออกแบบสร้างเป็นงานฝีมือ ตามแนวคิดสร้างสรรค์และคิดจินตนาการ	วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์  เทคโนโลยี และวิศวกรรมศาสตร์ ศิลปศึกษา
ประถมศึกษา ปีที่ 3	เรียนรู้เทคโนโลยี	-การนำกระดาษสา มาวัด ตัด แต่ง ออกแบบโดยเรียนรู้จากโปรแกรมคอมพิวเตอร์ เพื่อทำถ้วย จาน กล่อง เตรียมพร้อมสู่การขึ้นรูป	วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์  เทคโนโลยี และวิศวกรรมศาสตร์ ศิลป
ประถมศึกษา ปีที่ 4 – 6	บูรณาการความรู้สู่นวัตกรรม -การผลิตกระดาษสา ที่เหมาะกับการนำไปใช้เป็นผลิตภัณฑ์ชนิดต่างๆ  -การออกแบบผลิตภัณฑ์กระดาษสา จาน กล่อง  - การศึกษาการทำถ้วย กระดาษสา จากเครื่องขึ้นรูป        - การศึกษาการเคลือบพาราฟิน จากเครื่องเคลือบพาราฟิน	-การผลิตกระดาษสา จากเปลือกสา ตามแนวSTEM เพื่อให้ได้กระดาษสาที่เหมาะกับผลิตภัณฑ์ที่จะนำไปใช้ -การออกแบบผลิตภัณฑ์กระดาษสาโดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์หลากหลายรูปแบบ  -การทำถ้วยจากผลิตภัณฑ์กระดาษสา มาขึ้นรูปในเครื่องขึ้นรูป โดยใช้โมเดลรูปถ้วยก่อน แล้วจึงเพิ่มโมเดลรูปจาน และโมเดลรูปกล่อง   -การนำผลิตภัณฑ์กระดาษสามาเคลือบพาราฟิน ทดสอบคุณสมบัติการกันน้ำ	วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์  เทคโนโลยี และวิศวกรรมศาสตร์ ศิลป

 

1. ด้านทรัพยากรที่ใช้ 1.1 ความเหมาะสมของงบประมาณ
2. ด้านทรัพยากรที่ใช้ 1.2 ความเหมาะสมของโครงการกับสภาพการดำเนินการจริง
3. ด้านทรัพยากรที่ใช้ 1.3 ความร่วมมือของบุคลากรผู้เกี่ยวข้องในการปฏิบัติงาน/โครงการ
4. ด้านทรัพยากรที่ใช้ 1.4 ปริมาณวัสดุ อุปกรณ์เพียงพอสำหรับการดำเนินงาน/โครงการ
5. ด้านทรัพยากรที่ใช้ 1.5 ความเหมาะสมของสถานที่ที่ใช้ในการดำเนินงานโครงการ
6. 2.ด้านประเมินกระบวนการดำเนินงานตามกระบวนการ 2.1 โครงการมีการดำเนินงานตามขั้นตอนและวิธีการดำเนินโครงการ
7. ด้านประเมินกระบวนการดำเนินงานตามกระบวนการ 2.2 ความเหมาะสมของกิจกรรมและขั้นตอนวิธีการดำเนินโครงการ
8. ด้านประเมินกระบวนการดำเนินงานตามกระบวนการ 2.3 ขั้นตอนและวิธีการในการดำเนินโครงการสามาระส่งผลให้ผู้เข้าร่วมโครงการมีคุณลักษณะที่พึงประสงค์ได้ตามวัตถุประสงค์และเป้าหมายเชิงคุณภาพ
9. ด้านประเมินกระบวนการดำเนินงานตามกระบวนการ 2.4 ขั้นตอนและวิธีการดำเนินโครงการมีการส่งเสริมการมีส่วนร่วมระหว่างผู้รับผิดชอบโครงการ/วิทยากร/ผู้เข้าร่วมโครงการ
10. 3.ด้านประเมินผลการดำเนินงาน 3.1 ผลการดำเนินงานเป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้มากน้อยเพียงใด
11. ด้านประเมินผลการดำเนินงาน 3.2 ผลการดำเนินงานเป็นไปตามเป้าไมายเชิงคุณภาพที่กำหนดไว้มากน้อยเพียงใด
12. ด้านประเมินผลการดำเนินงาน 3.3 ผลการดำเนินงานเป็นไปตามเป้าหมายเชิงปริมาณที่ี่กำหนดไว้มากน้อยเพียงใด


นางศิริรัชญ์ ธิต๊ะและคณะครูทุกคน
นางสาวพจนา ยิ้มรักษา
นางปิ่นณหฤทัย เป็งวงศ์รัตน
นางสุพรรณี ขัตินนท์
นางจิราพร สุวรรณัง
นางภาวิณี พันติยา นางศุภนุช ชัยยาคำ นายวุฒิพงศ์ สุวรรณจันทร์ นายวึุฒิเดช กำลังเก่ง นางสาวกมลรัตน์ เลิศคำ