โรงเรียนอนุบาลบ้านหมี่เป็นโรงเรียนขนาดกลางมีนักเรียน 171 คน ผู้บริหาร 1 คน ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา 14 คน (ครูสาขาคอมพิวเตอร์ 2 คน) เจ้าหน้าที่ ICT Talent 1 คน โรงเรียนเป็นศูนย์กลางของอำเภอมีนักเรียนเกือบทุกตำบลในอำเภอมาเรียน โรงเรียนได้จัดโครงการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โดยใช้เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์เป็นส่วนหนึ่งในการเพิ่มโอกาสการเรียนรู้ให้นักเรียนเพราะสื่อเทคโนโลยีที่ทันสมัยช่วยให้เด็กในยุค Thailand 4.0 มีทักษะในการเรียนรู้ที่กว้างไกล ฉลาดรู้และเข้าใจโลกดิจิทัล ซึ่งคอมพิวเตอร์มีสภาพไม่พร้อมต่อการใช้งาน ไม่เพียงพอต่อจำนวนนักเรียนทำให้ไม่สามารถเรียนรู้ได้เต็มที่และเพื่อพัฒนาผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 โรงเรียนจึงจัดทำการบริจาคเพื่อการศึกษาโครงการ “คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กเพื่อพัฒนาการศึกษา เสริมปัญญา สร้างอนาคต” ขึ้น

โรงเรียนมีความต้องการจัดซื้อคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กสำหรัยนักเรียน 24 เครื่อง ครูประจำกลุ่มสาระฯ5 เครื่อง รวมทั้งสิ้น 29 เครื่อง

โดยดำเนินการดังต่อไป

1. จัดประชุมชี้แจงสร้างความเข้าใจให้ดกับผู้ปกครองนักเรียนเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กยืมเรียนสำหรับนักเรียน 1 ต่่อ 1
2. จัดอบรมการใช้งาน Software ก่อนการใช้งานให้กับนักเรียน
3. ฝึกให้นักเรียน เรียนรู้วิธีการใช้งานและจัดเก็บอุปกรณ์หลังการใช้อย่างถูกวิธี
4. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ใช้คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก ในการใช้งานระบบ Up Skill O-Net เพื่อศีกษาเรียนรู้และทดสอบ เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ O-NET
5. จัดกิจกรรมให้นักเรียนมีทักษะในการศึกษาหาข้อมูลและค้นคว้าหาความรู้ด้วยตนเองได้ทุกที่ทุกเวลา
6. ครูกลุ่มสาระต่างๆจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning ที่สามารถประยุกต์ใช้คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กในการจัดการเรียนรู้และใช้ระบบ V class, V room ในการเรียนออนไลน์
7. ครูใช้การจัดการสอนด้วยการเขียนโปรแกรม Scratch เพื่อช่วยส่งเสริมให้ผู้เรียนมีความคิดแบบสร้างสรรค์ คิดเหตุผลอย่างเป็นระบบและทำงานร่วมกันได้อย่างมีความสุข

     8. ผู้บริหาร นิเทศ กำกับ ติดตาม

การนำคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กไปใช้ประโยชน์สำหรับนักเรียน 

    1. ใช้ฝึกทักษะการใช้เทคโนโลยี การศึกษาหาข้อมูลการเรียน การค้นคว้าหาความรู้สื่อการเรียนแหล่งเรียนรู้ออนไลน์ด้วยตนเองได้ทุกที่ทุกเวลา ด้วยอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง 

    2. ใช้สืบค้นจากแหล่งความรู้ที่มีคุณภาพ สื่อการเรียนการสอนจากดิจิทัลทั่วโลกได้ทุกที่ทุกเวลา

    3. ใช้พัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางเรียน ผลการสัมฤทธิ์ทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน O-NET ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ให้เพิ่มขึ้น โดยใช้ระบบ Up Skill O-NET เป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนานักเรียน

    4. ใช้ในการสร้างชิ้นงานหรือใช้ในการทำงาน และข้อมูลที่ใช้นั้นเก็บบันทึกอยู่ในฐานข้อมูลและทำการวิเคราะห์ข้อมูลด้วย ตาราง คำนวณ ทำให้เกิดการเรียนรู้แบบผสมผสานทั้งการเรียนรู้การใช้เทคโนโลยี ICTและการเรียนรู้ที่เกิดจากการค้นคว้าเรียบเรียงและจัดการกับข้อมูล

    5. ใช้คอมพิวเตอร์เทคโนโลยีในการเรียนรู้วิชาต่างๆ ฝึกการถ่ายทอดความรู้ความสามารถพื้นฐานในการใช้เทคโนโลยี

การนำคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กไปใช้ประโยชน์สำหรับครู

     1. ใช้ในการจัดการเรียนการสอนในแต่ละกลุ่มสาระวิชาให้มีความทันสมัย ยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน

     2. ใช้ในการจัดการสอนด้วยการเขียนโปรแกรม  Scratch เพื่อช่วยส่งเสริมให้ผู้เรียนมีความคิดแบบ สร้างสรรค์ คิดเหตุผลอย่างเป็นระบบ และทำงานร่วมกันได้อย่างมีความสุข

     3. ใช้ในการจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้และจัดการจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning ที่สามารถประยุกต์ใช้คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กในการจัดการเรียนรู้และใช้ระบบ V class ในการเรียน และสามารถพัฒนาตนเองสู่ความชำนาญทางวิชาชีพ

     4. นำมาใช้เป็นเครื่องมือในนำเสนอการสร้างชิ้นงานแก่นักเรียน เป็นการบูรณาการเพื่อพัฒนาทักษะด้านเทคโนโลยีที่สอดคล้องกับหลักสูตรและเนื้อหา

     5. ใช้ในหลักสูตรในรูปแบบของเกมส์ การฝึกฝนการปฏิบัติ และการทบทวน 

     6. ใช้เทคโนโลยีในการนำเสนอ การสาธิต และการจัดการกับข้อมูลด้วยเครื่องมือและโปรแกรมที่เหมาะสม

     7. ใช้ในการเรียนการสอนบนอินเทอร์เน็ตและเวิลด์ไวด์เว็บ

     8. ใช้ในการทดสอบระดับเขตพื้นที่การศึกษา (Area Test : AT) ด้วยระบบออนไลน์ ของนักเรียน

     9. ใช้ในการทดสอบหน่วยการเรียนรู้ (Unit Test : UT) ระดับเขตพื้นที่การศึกษา ด้วยระบบออนไลน์ของนักเรียน

    10.ใช้ในพัฒนารูปแบบการสอบปลายปีของโรงเรียนในวิชาที่ไม่มีข้อสอบระดับสำนักงานเขต ให้เป็นการสอบแบบออนไลน์

    11.ใช้ระบบสนับสนุนการบริหารจัดการสถานศึกษา (SMSS) ในการบริหารงานวิชาการ เพื่อเป็นฐานข้อมูลสารสนเทศของโรงเรียน ด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน

    12.ใช้ในการประมวลผลประเมินต่างๆ ภายในโรงเรียนด้านการบริหารจัดการศึกษา โดยการเก็บข้อมูล วางแผนงาน อย่างเป็นระบบ

    13.ใช้จัดทำแผนงานของหน่วยงานวิชาการในโรงเรียนให้เป็นระบบออนไลน์ ตรวจสอบและสามารถนำไปปฏิบัติได้รวดเร็ว ชัดเจน และคล่องตัวในการดำเนินงาน

การจัดเก็บและบำรุงรักษาอุปกรณ์

          1. เจ้าหน้าที่พัสดุจัดทำทะเบียนครุภัณฑ์คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กทุกเครื่อง ควบคุม ตรวจสอบพัสดุทุกปีงบประมาณ

          2. เก็บคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กในตู้เหล็กที่มีกุญแจแข็งแรง และเก็บในห้องที่มีความมั่นคงแข็งแรง

          3. ผู้บริหารจัดสรรงบประมาณในการซ่อมบำรุงอย่างเพียงพอทุกปีงบประมาณ ตลอดอายุการใช้งาน

          4. ครูผู้สอนฝึกให้นักเรียนเรียนรู้วิธีการใช้งานและจัดเก็บอุปกรณ์หลังการใช้อย่างถูกวิธี

          5. จัดอบรมการใช้งาน Software ก่อนการใช้งานให้กับนักเรียน 

          6. แนะนำนักเรียนการทำงานต่างๆ ของอุปกรณ์ภายนอกและบอกวิธีการใช้และการบำรุงรักษาอุปกรณ์นั้นๆ

          7. ครูสาขาคอมพิวเตอร์และเจ้าหน้าที่ ICT Talent ดูแลการใช้งาน ตรวจสอบความเรียบร้อยของอุปกรณ์การใช้งาน

          8. ผู้บริหารให้ความสำคัญในการนิเทศกำกับติดตามการจัดเก็บและบำรุงรักษาอุปกรณ์อย่างสม่ำเสมอ